Google Ads โดย Chatcha Studio
📌เชื่อว่าคนที่ทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ส่วนใหญ่น่าจะเคยได้ยินชื่อของ Google Ads มาบ้างแล้ว แต่อาจจะยังไม่รู้ว่า Google Ads คือ อะไร แบบจริงๆ จังๆ แล้วทำอะไรได้มากน้อยขนาดไหน ทำไมคนที่มีเว็บไซต์ทั้งแบรนด์ใหญ่ๆ และ SME ถึงได้ใช้ Tools ตัวนี้กันแทบทั้งนั้น ลองอ่านบทความนี้ดู รับรองว่าคุณจะเข้าใจ Google Ads มากขึ้น📌
โฆษณา Google Ads คือ ?
📌 Google Ads คือ การทำโฆษณาผ่านเครือข่าย Google โดยอาศัยจุดแข็งของ Google ที่มีผู้เข้าใช้งานในหลักล้านคนต่อวัน ซึ่งรูปแบบโฆษณาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ Google Search
📌สาเหตุที่หลายแบรนด์เลือกใช้ Google Search เพราะจำนวนผู้เข้าใช้ Google เพื่อค้นหาข้อมูลในประเทศไทยต่อเดือนมีจำนวนสูงถึง 4 ร้อยกว่าล้านคน เฉลี่ยแล้วมีผู้ใช้วันละ 13 ล้านคน (อ้างอิงจากข้อมูลสถิติ HootSuite Digital Marketing 2019) ทำให้ Google แปรสภาพเป็นตลาดออนไลน์ที่มีขนาดใหญ่มาก และมีโอกาสที่เจ้าของธุรกิจจะขายสินค้าหรือบริการผ่านการทำ Google Ads ได้เพิ่มมากขึ้น
บริการของ Google Ads
Google Search
“บริการโฆษณาเว็บไซต์เมื่อมีผู้ค้นหา Keyword ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเรา”
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าคนส่วนใหญ่จะรู้จัก Google Ads ว่าเป็นการโฆษณาเว็บไซต์เวลามีคน search เข้ามา ซึ่งก็ถูกครับ เพราะรูปแบบการโฆษณาของ Google Search จะเป็นการเลือกซื้อ Keyword ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเรา เพื่อให้ผู้ค้นหาเจอเราก่อนเป็นอันดับแรกๆ เพิ่มโอกาสในการขายให้มากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วคีย์เวิร์ดที่ควรใช้ก็คือ Keyword ที่มีโอกาสในการขายมากที่สุด

A color block
Color blocks are a simple and effective way to present and highlight your content. Choose an image or a color for the background. You can even resize and duplicate the blocks to create your own layout. Add images or icons to customize the blocks.
More DetailsAnother color block
Color blocks are a simple and effective way to present and highlight your content. Choose an image or a color for the background. You can even resize and duplicate the blocks to create your own layout. Add images or icons to customize the blocks.
More Detailsทำไม ? จึงควรใช้ Google Ads
ข้อดี ข้อเสียของ Google Ads มีอะไรบ้าง?
ข้อดีของ Google Ads
- ใช้ระยะเวลาในการดำเนินงานเพียงไม่กี่นาที ก็สามารถทำการโฆษณาเว็บไซต์ของเราได้แล้ว
- สามารถเลือก Keyword ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราได้ไม่จำกัด
- สามารถกำหนด Title Description ของโฆษณาได้
- กำหนดตำแหน่งโฆษณาได้แน่นอน แต่ก็ขึ้นอยู่กับราคา Bid ของแต่ละ Keyword เช่นกัน
- กำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้
- จ่ายค่าโฆษณาให้กับทาง Google เมื่อมีคนคลิกโฆษณา
- วัดผลได้แน่นอน เช่น มีคนเข้าชมเว็บไซต์กี่คน คนคลิกโฆษณาช่วงเวลาไหนมากที่สุด
- เว็บไซต์เป็นที่รู้จักมากขึ้น และได้ลูกค้าที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย
ข้อเสียของ Google Ads
- มีคู่แข่งเยอะ การแข่งขันสูง
- ราคาของKeywords มักไม่ค่อยแน่นอนมีการขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา เพราะมีการแข่งขันที่สูงมาก
- เสียค่าบริการให้กับ Google ตามจำนวนการคลิกของผู้ที่เข้าชมเว็บไซต์ของเรา โดยลูกค้านั้นจะสั่งซื้อหรือใช้บริการของเราหรือไม่ก็ตาม

Google Ads ต่างจาก SEO อย่างไร?
SEO คือ การทำให้เว็บไซต์ติดอันดับแบบไม่เสียเงิน ใช้เวลาแต่ยั่งยืน
SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์อย่างหนึ่ง ที่มักจะโฟกัสไปที่การทำเนื้อหาเว็บไซต์ ให้เกี่ยวข้องกับคำค้นหาใน Search Engine เพื่อทำให้อันดับการค้นหา อยู่ในอันดับต้นๆ ส่งผลให้ผู้ชมหาเว็บไซต์หาเราเจอง่ายขึ้น ทั้งนี้ไม่ใช่แค่เนื้อหาบนเว็บไซต์ แต่ยังเกี่ยวข้องกับ การปรับแต่งโครงสร้างหน้าตาเว็บไซต์ การปรับแต่งโค้ด หรือแม้กระทั่งปรับความเร็วในการเข้าถึงเว็บไซต์
ซึ่งผลลัพธ์ของการกระทำเหล่านี้ จะส่งผลให้เว็บไซต์ของคุณอยู่อันดับต้นๆ ของผลการค้นหา ด้วย Keyword ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ หรือธุรกิจของคุณเอง เรียกง่ายๆว่า เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ให้เกี่ยวข้องกับคำค้นหาให้มากที่สุด ซึ่งหากคุณทำได้ดี Search Engine ก็จะมองเห็นว่าเนื้อหาในเว็บไซต์คุณเกี่ยวข้องกับคำค้นหามากกว่าเว็บไซต์อื่นๆ จะแสดงผลในหน้าค้นหาโดยคำนึงถึงความเกี่ยวข้องและความสำคัญมากน้อยตามลำดับกันไป
Google Ads คือ คือการทำให้เว็บไซต์ติดอันดับด้วยการจ่ายเงิน ติดอันดับทันที
Google Ads เป็นบริการของ Google ซึ่งเป็น Search Engine อันดับหนึ่งของโลก ซึ่งให้บริการโฆษณาโดยคิดค่าบริการเป็นต่อคลิก โดยจะใช้ Keyword ที่ผู้คนทั่วโลกใช้ค้นหา สิ่งที่พวกเขาต้องการ เป็นตัวดึงลูกค้าเข้ามาหาเว็บไซต์เรา ซึ่งจะคิดค่าบริการก็ต่อเมื่อมีคนคลิกที่โฆษณา และเข้ามายังเว็บไซต์ของเราแล้ว ข้อดีของการทำ Google Ads เป็นเหมือนการทำเว็บไซต์เป็นที่รู้จักในวงกว้าง อยากให้เว็บไซต์ติดอันดับ ทำให้ผู้คน ค้นหาคุณเจอได้อย่างง่ายดาย และได้ลูกค้าที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย
เพราะการทำ Google Ads นั้น เราจะไม่ได้ออกไปหาลูกค้าให้เหนื่อย แต่เราจะทำให้ลูกค้าหาเราเจอด้วยตัวเอง จากสิ่งที่เรียกว่า “คีย์เวิร์ด” ซึ่งมันง่ายตรงที่ เราไม่จำเป็นต้องทำอะไรเยอะ เพียงแต่พยายามหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า และรอให้พวกเขาคลิกเข้ามาในเว็บไซต์ของเราเอง โดยแทบไม่เปลืองแรงอะไรเลย หากเรามีการวิเคราะห์มาอย่างดี
รูปแบบของแคมเปญ Google Ads
1. Search
จะเป็น Ads ที่อยู่ในรูปแบบของ Text หรือตัวหนังสือ เหมือนภาพ screenshot ที่เราโชว์ไว้ข้างต้น โดยเน้นที่คีย์เวิร์ดเป็นตัวละครหลัก ซึ่งนั่นก็เพราะผู้ค้นหาจะค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดต่างๆ เวลาใช้ Google Search นั่นเอง เมื่อคำค้นหาของผู้ค้นหามา Match กันกับแคมเปญ Search Ads ที่เราสร้างเอาไว้ โฆษณาของเราก็จะปรากฏอยู่ด้านบนหรือด้านล่างของหน้าแสดงผลการค้นหานั่นเอง ส่วนเรื่องที่ว่าโฆษณาของคุณจะอยู่อันดับที่เท่าไหร่ จะบนหรือล่างนั่น ต้องดูที่การประมูลอีกทีหนึ่ง
2. Google Display Network หรือ GDN
ขึ้นชื่อว่า Display แสดงว่าต้องมีอะไรให้โชว์ ไม่ใช่แค่รูปแบบเรียบง่ายแบบ Text หรือตัวอักษร แต่โฆษณาในรูปแบบนี้จะเห็นรูปภาพและตัวหนังสือ ในลักษณะของ Banner ซึ่งเจ้าแบนเนอร์ตัวนี้จะไม่ได้ปรากฏขึ้นมาบนหน้า Google Search เหมือน Search Ads แต่จะปรากฏไปยังที่ต่างๆ เช่น บนเว็บไซต์ทั่วๆ ไปที่เป็นพันธมิตรกับ Google
3. Shopping
Google Shopping Ads เป็นโฆษณาแบบที่แสดงผลคล้ายๆ Marketplace คุณสามารถใส่รูปภาพสินค้น ราคา รายละเอียดอื่นๆ เมื่อมีคนค้นหาใน Google Search เป็นชื่อสินค้า หรือลักษณะของสินค้านั้นๆ เจ้า Google Shopping ก็จะโผล่ขึ้นมา ข้อเด่นของ Google Shopping คือ ผู้ซื้อจะได้สามารถเห็นผลิตภัณฑ์แบบที่อยากได้หรือแบบที่ใกล้เคียงและคล้ายกันขึ้นมาพร้อมๆ กันจากหลายๆ แหล่ง ให้สามารถเปรียบเทียบราคาและรายละเอียดอื่นๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อได้
4. Video
รูปแบบวิดีโอก็คงหนีไม่พ้นต้องเป็นการทำโฆษณาบน Youtube การทำโฆษณาบน Youtube ที่สามารถมีความยาวได้หลากหลาย เลือกการแสดงผลให้เป็นต้นคลิป กลางคลิป โดยที่รายได้จากโฆษณาเหล่านี้จะถูกแบ่งไปยัง Youtuber ด้วย ไม่ได้เข้า Google อย่างเดียว
5. App
แน่นอนว่าตามชื่อของรูปแบบ สิ่งที่จะนำมาโฆษณาก็ต้องเป็นแอฟพลิเคชัน โดยโฆษณาในลักษณะนี้จะมีการโฆษณาในรูปแบบ GDN ไปได้ทุกที่ไม่ว่าจะเป็น Youtube แอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์อื่นๆ (รวมทั้ง Google Play Store ด้วย)
6. Smart
แบบ Smart หมายถึงยังไง? แบบ Smart หมายถึงจะให้ตัวเราสามารถกำหนด หรือ Customise ได้เอง ว่าอยากให้มี Action อย่างไรบนเว็บไซต์ของเรา อยากที่จะ Re-marketing นอกจากนี้ยังสามารถทำให้โฆษณาโชว์ได้ทั้งบน Google Search หรือ Google Maps ก็ได้ ทั้งหมดเราสามารถกำหนดได้เอง
7. Discovery
แบบ Discovery หมายถึงยังไง? Discovery Ads เป็นรูปแบบโฆษณาแบบใหม่จากทาง Google Ads คือการรันแอดบนผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Google เช่น Google Now, Gmail และ Youtube
ตัวอย่างการใช้ Google Ads ของเรา

สรุป
Google Ads เป็นเครื่องมือโฆษณาออนไลน์บนเครือข่ายของ Google ที่ช่วยให้เราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหรือกลุ่มลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น โดยจะมีค่าใช้จ่ายในการทำโฆษณา มีรูปแบบในการทำโฆษณาที่หลากหลายให้เราได้เลือกใช้กับเว็บไซต์ได้ตรงตามเป้าหมายที่เราตั้งใว้ หากสนใจการทำโฆษณาผ่านทาง Google Ads ก็ลองเลือกรูปแบบการโฆษณาให้เข้ากับรูปแบบธุรกิจของพวกคุณเพื่อทำให้การโฆษณามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น